ท่องเที่ยวหนึ่งวันในโอขะซะขิ

เมืองโอขะซะขิตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดไอชิ เป็นเมืองศูนย์กลางของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น มีสิ่งให้ดู ให้สัมผัสประสบการณ์และสนุกสนานได้มากมาย นี่เป็นเพียงไอเดียส่วนน้อยสำหรับการท่องเที่ยวหนึ่งวันที่โอขะซะขิ !

ปราสาทโอขะซะขิ สัญลักษณ์ของเมือง

ปราสาทโอขะซะขิเป็นสัญลักษณ์ของทางประวัติศาสตร์ของเมืองโอขะซะขิ สถานที่เกิดของโชกุนโทขุกะวะ อิเอยะสุ และเป็นหนึ่งในปราสาทที่คนในชาติให้ความเคารพมากที่สุดแห่งหนึ่ง

โอขะซะขิเคยจริญรุ่งเรืองในยุคเอโดะ เป็นเมืองปราสาทสำคัญที่ตั้งอยู่เลียบทางหลวงโทไคโด ซึ่งเป็นทางสัญจรหลักระหว่างเมืองหลวงเกียวโตกับเมืองเอโดะ (กรุงโตเกียวในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของอิเอยะสุ เมื่อญี่ปุ่นสิ้นสุดระบบศักดินา ปราสาทโอขะซะขิก็ถูกทำลายลงเช่นเดียวกับปราสาทอื่นโดยส่วนมาก เหลือทิ้งไว้เพียงคูเมืองและกำแพงหินที่มีควาทนทาน ตัวอาคารกลางของปราสาทได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปีค.ศ. 1959 ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงชุดเกราะซามุไรและอาวุธต่างๆ

ชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพแบบพาโนรามาของบริเวณพื้นที่รอบข้าง

พิพิธภัณฑ์นักรบผู้โด่งดังแห่งมิคะวะ

ระหว่างท่องไปรอบๆ ปราสาทโอขะซะขิ คุณอาจจะได้พบกับซามุไรในยุคปัจจุบันซักคนสองคน พิพิธภัณฑ์นักรบอิเอยะสุและมิคะวะซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณของปราสาทเป็นสถานที่ที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศให้กับโทขุกะวะ อิเอยะสุและนายพลที่ท่านไว้วางใจ

เป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้สำรวจวิถีชีวิตของซามุไรและลองสวมชุดเกราะพร้อมกับอาวุธเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก !

พักผ่อนหย่อนใจที่ร้านน้ำชาโจนัน

การไปเยี่ยมชมปราสาทโอขะซะขิจะนำพาคุณเข้าใกล้จิตวิญญาณของซามุไร สัมผัสวัฒนธรรม เพลิดเพลินไปกับไปกับชาเขียวมัจฉะซักแก้วให้ชื่นใจพร้อมกับขนมหวานญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมตามฤดูกาลที่ร้านโจนัน

รับน้ำชาเสิร์ฟภายในร้านได้หรือเสริฟนอกร้านเพื่อชมสวนแบบดั้งเดิมได้ตามฤดูกาล

เยี่ยมชมวัดประวัติศาสตร์ไดจูจิ วัดประจำตระกูลโทขุกะวะ

วัดไดจูจิ วัดประจำตระกูลโทขุกะวะตั้งอยู่ถัดออกไปเพียงไม่กี่กิโลเมตรจากทางเหนือของปราสาท สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1475

วัดแห่งนี้เป็นที่เก็บป้ายหลุมศพของผู้สืบทอดของโชกุนโทขุกะวะ 15 ราย ซึ่งแต่ละป้ายจะปักอยู่ด้วยความสูงเท่ากับตัวจริง มีห้องหนึ่งซึ่งแม้ในปัจจุบันก็สงวนไว้เฉพาะสำหรับการใช้งานของโชกุน !

ชมหลุมศพของผู้สืบทอดตระกูลโทขุกะวะแล้วอย่าลืมไปชมวิวของปราสาทโอขะซะขิผ่านประตูใหญ่ของวัดไดจูจิด้วย

อิ่มอร่อยกับรสชาติแห่งโอขะซะขิที่ร้านโอกิโนะ

ถึงเวลานี้คุณคงจะหิวกันแล้ว และถึงแม้ว่าจะมีร้านอาหาคุณภาพชั้นเลิศที่เสิร์ฟอาหารกลางวันแบบดั้งเดิมมากมาย แต่ผมขอแนะนำอย่างยิ่งให้มาลองที่ร้านโอกิโนะ ด้วยเมนูที่มีตั้งแต่อาหารยอดนิยมตลอดกาลอย่างเทมปุระไปจนถึงอาหารอันโอชะของท้องถิ่น อย่างฮิทสึมะบุชิ ซึ่งเป็นปลาไหลย่างบนข้าวสวยร้อน...และกลิ่นอันน่าทึ่ง !

พบกับฮัชโชมิโสะ อาวุธลับของนักร

ฮัชโชมิโสะเป็นมิโสะที่มีรสชาติเข้มข้น มีคุณค่าทางสารอาหารสูง และอยู่ได้นานกว่ามิโสะประเภทอื่น ด้วยเหตุนี้ เหล่าขุนศึกซามุไรจึงนิยมที่จะรับมาเป็นการปันส่วนทางทหาร

800 เมตร (หรืออ่านว่าฮัชโชในภาษาญี่ปุ่น) ไปทางทิศตะวันตกของปราสาทโอขะซะขิ ตลอดเส้นทางสายเก่าของโทไคโดเป็นที่ตั้งของผู้ผลิตฮัชโชมิโสะแบบดั้งเดิมตั้งแต่ยุคเอโดะสองเจ้าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งได้แก่ร้าน คะขุคิว และ มะรุยะ

มิโสะหมักจากถั่วเหลืองนานกว่าสองปีในอ่างไม้ขนาดใหญ่สูงสองเมตรแล้วปิดทับด้วยหินหนักสองตันโดยใช้วิธีซ้อนทับแบบเดียวกับที่ใช้ในการสร้างปราสาท ขอเชิญชมกระบวนการผลิตที่ทรงคุณค่าทางเวลา และสถานที่ลิตแบบดั้งเดิม ลองชิมและหาซื้อมิโสะแท้ๆ ได้ที่นี่ !

คะขุคิว

มะรุยะ

พบกับช่างทำเทียนแบบดั้งเดิม มาสเตอร์มัทสึอิ

เทียนญี่ปุ่นมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้แสงไฟที่ใสกว่า มีความเสถียรมากกว่าและดูนวลกว่าเทียนทั่วไป ทั้งยังมีกลิ่นและควันน้อย ในญี่ปุ่นเหลือช่างฝีมือทำเทียนวะโรโสะขุแบบดั้งเดิมที่ทำด้วยมือจากส่วนประกอบแบบดั้งเดิมเพียง 20 คนเท่านั้น

หนึ่งในช่างฝีมือชั้นนำนั้นก็คือ มาสเตอร์มัทสึอิ ซึ่งอยู่ในตระกูลที่ทำเทียนมามากกว่า 110 ปี ที่เวิร์คช็อปของมาสเตอร์มัทสึอิ ท่านสามารถชมกระบวนการทำเทียน และลองทำเอะโรโสะขุ ซึ่งเป็นเทียนที่มีการวาดลวดลายลงบนเทียนแบบดั้งเดิมได้ด้วยมือของคุณเอง (ผมลองวาดปราสาทโอขะซะขิบนเทียนของผมแล้ว)

เทียนญี่ปุ่นในแบบของตัวเองเป็นของฝากอันยอดเยี่ยม และคุณจะได้พบกับช่างฝีมือแบบดั้งเดิมอีกด้วย